ลิปสติกสวย ๆ เค้ามีให้เลือกกี่ประเภทกันนะ

ขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้า ที่ทำให้สาว ๆ จบได้อย่างสวยสมบูรณ์แบบ เห็นจะไม่พ้นการทาลิปสติกสีสวย ๆ ให้เรียวปากมีเสน่ห์ สำหรับลิปสติกนั้น ก็มีสีสันให้เลือกมากมาย แถมสีเดียวกันบางทีก็แยกเฉดออกไปอีกหลาย 10 เฉด ที่จริงนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับสาว ๆ ที่จะเลือกสีที่เหมาะกับตัวเอง หรือเข้ากับชุดสวย ๆ ที่ใส่ แต่จะมีสาว ๆ กี่คนกันนะ ที่รู้ว่าลิปสติกนั้นมีเนื้อลิปกี่ประเภท

นอกจากการเลือกสีลิปสติกสวย ๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือการเลือกเนื้อลิปให้เหมาะกับผิวริมฝีปาก บางคนปากแห้ง ปากคนปากแตกเป็นขุย การเลือกเนื้อลิปสติกที่เหมาะสม จะช่วยบำรุงให้ริมฝีปากมีความแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย

มาดูกันว่า  5 ประเภทของลิปสติกที่สาว ๆ ควรรู้จัก และเลือกใช้ให้เหมาะสมมีอะไรกันบ้าง

  1. ลิปสติกเนื้อครีม เป็นลิปสติกยอดนิยมประเภทหนึ่ง ด้วยเม็ดสีที่แน่น และชัดเจน แต่ยังคงให้ความชุ่มชื่น ทำให้ได้สีสันบนเรียวปากที่โดดเด่น และสดใส ติดทนนาน
  2. ลิปสติกเนื้อซาติน และเนื้อเชียร์ เป็นลิปสติกที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ และน้ำมัน ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ได้ทั้งสีสันของ และได้ทั้งความมันวาวด้วย คล้าย ๆ ลิปมัน แต่มีสีสันที่ชัดเจนกว่า
  3. ลิปสติกเนื้อลิควิค สุดฮิตในยุคนี้ ที่เรียกกันว่าลิปสติกจิ้มจุ่มนั่นเอง เนื้อค่อนข้างหนืด แต่ใช้ง่าย สีสันสวย ใช้แปรงจุ่มแล้วทาปากได้เลย แห้งเร็ว และติดทนนาน
  4. ลิปสติกเนื้อกลอส เป็นลิปสติกสีอ่อนใส ที่เน้นให้ความฉ่ำ แวววาว ดูมีสุขภาพดี นิยมทาทับลิปสติกสีแรก เพิ่มประกาย เพิ่มความชุ่มฉ่ำ ดูปากเย้ายวนขึ้น
  5. ลิปสติกเนื้อแมทท์ ลิปสติกยอดนิยมอีกในยุคนี้ ให้สีสันสวย แปลกตา ดูชัดเจน ไม่มีความมันวาว เรียกได้ว่าค่อนข้างแห้ง ต้องเลือกคุณภาพของแบรนด์ที่ดีสักนิด เพราะถ้าเนื้อไม่ดี จะทำให้ตกร่องปาก มองแล้วเห็นเป็นริ้ว ๆ ตามร่องปาก ดูคล้ายคนปากแห้ง ไม่สวยงาม สามารถใช้ลิปมันทารองพื้นก่อน เพื่อไม่ให้ดูแห้งจนเกินไป

นอกเหนือจากลิปที่ให้สีสันทั้ง 5 ประเภทแล้ว ยังมีลิปมัน และลิปบาล์ม ที่มุ่งเน้นเรื่องการบำรุงริมฝีปาก สามารถทารองพื้นปากก่อนทาลิปสติกสี เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี ลิปทั้ง 2 แบบนี้ มีทั้งแบบใส และแบบที่ให้สีสันด้วย แต่เป็นสีที่อ่อนมาก ๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทาลิปสติกสีจัด ชัดเจน แต่อยากบำรุงริมฝีปาก และได้ลุคปากชมพูอ่อนใสด้วย หรือแม้แต่วัยรุ่น แค่ทาแป้ง เน้นโชว์ผิวสวย ๆ แล้วทาลิปมันสีอ่อน ๆ เท่านี้ ก็ดูน่ารัก สดใสสมวัยแล้ว และสามารถทาเติมได้บ่อยเท่าที่ต้องการอีกด้วย สาว ๆ อย่าได้พลาดที่จะมีลิปสติกประเภทนี้ติดกระเป๋าไว้เชียว

 

5 แบบรองเท้า ที่สาว ๆ ควรมีไว้ข้างกาย

สาว ๆ ที่รักการแต่งตัวทั้งหลาย น้อยคนนักที่จะไม่ใส่ใจกับไอเทมสุดสำคัญ เช่น รองเท้า ในเมื่อแมทช์ชุดลงตัวแล้ว ถ้ามาพลาดแมทช์รองเท้าให้เข้าชุดไม่ได้ ทุกอย่างที่พิถีพิถันเลือกมา อาจจะทำให้สาวที่เคยเป็นคนแต่งตัวได้ดี ดูกลายเป็นคนแต่งตัวไม่เป็นขึ้นมาเสียเฉย ๆ ก็ได้นะ

สาว ๆ ส่วนใหญ่คงไม่ปฏิเสธว่ามีรองเท้ามากกว่าหนึ่งคู่ ก็เพราะความสวยของรองเท้าแต่ละคู่ มันทำให้หักห้ามใจไม่ไหวนั่นเอง แต่สาว ๆ รู้ไหม จริง ๆ แล้ว รองเท้าที่ควรมีไว้เป็นคู่กายคู่ใจ มันมีแบบไหนกันบ้าง นอกจากจะขยันซื้อเพราะความสวยแล้ว ลองมาดูกันหน่อย ว่ารองเท้าในตู้ที่มี มันซ้ำแบบกันสักกี่คู่นะ

5 แบบรองเท้า ที่สาว ๆ ควรมีไว้ในครอบครอง

  1. รองเท้าแบบ Flats เป็นรองเท้าหุ้มส้น และเป็นแบบส้นแบน เน้นสวมสบาย ใส่ง่าย ใช้ได้กับหลาย ๆ โอกาส เน้นความเข้ากันกับชุดที่ให้ลุคชิล ๆ หรือเอาไว้เป็นรองเท้าที่ใช้ใส่เดินในที่ทำงานก็ดูดีกว่ารองเท้าแตะมาก ยิ่งหากต้องเดิน หรือยืนทั้งวัน รองเท้า Flats แบบนี้แหละที่ช่วยได้เป็นอย่างดี
  2. รองเท้า Loafers เป็นรองเท้าส้นเตี้ย เน้นความสวมสบายเช่นกัน ไม่มีเชือกผูกรองเท้า สวมใส่ง่าย ดูดี ไม่ลำลองมากนัก สามารถแมทช์ได้แทบทุกชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดทำงาน ชุดลำลอง กางเกง หรือกระโปรง เรียกว่าเป็นรองเท้าที่ควรมีติดไว้เป็นอย่างยิ่ง
  3. รองเท้า Pumps รองเท้าส้นสูง ขนาด 2”-4” ปลายเท้าเปิด หรือปิดก็ได้ เป็นรองเท้าอีกแบบ ที่ช่วยให้รอดได้ในหลาย ๆ ชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดไหน อย่าลืมแมทช์กับรองเท้าแบบนี้ดูบ้าง ได้ลุคที่ดูดีมากทีเดียว แนะนำให้สาว ๆ มีไว้ในครอบครองสัก 2 สีเป็นอย่างน้อย นั่นคือ สีดำ และ สีนู้ด แค่นี้ก็จับคู่กับชุดสวยได้มากมายแล้ว
  4. รองเท้า Sandals เป็นรองเท้าเปิดปลายเท้า หรือเปิดส้นเท้าด้วย โชว์เท้าสวย ๆ นิ้วเท้าเรียว ๆ ใส่สบาย ใส่ง่าย ดีไซน์เก๋ น่ารัก บางแบบมีเครื่องประดับ หรือพู่ห้อย ดูกุ๊กกิ๊ก ใส่เที่ยวก็ดี ใส่เล่นก็ได้ บางสไตล์เป็นแบบใส่ลุย ๆ มีรูปแบบให้เลือกเยอะมากมาย สาว ๆ มักจะพ่ายแพ้ความสวยน่ารักกับรองเท้า sandals นี้ได้อย่างง่ายดาย
  5. รองเท้า Oxford เป็นรองเท้าส้นแบน ที่มีเชือกผูก ให้ความรู้สึกเป็นทางการทีเดียว เท่ และ มีสไตล์ ส่วนใหญ่จะเป็นหนัง แมทช์ชุดที่ให้ลุคสมาร์ท ๆ ไม่พลาดอย่างแน่นอน

รองเท้าแต่ละแบบให้ลุค ให้อารมณ์ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ควรเลือกให้เหมาะกับชุดที่ใส่ จะช่วยเสริมความดูดีขึ้นไปได้อีกมาก มีรองเท้าอีกประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ เพราะมาแรงจริง ๆ ไม่ว่าชุดไหน ๆ สาว ๆ จับมาใส่คู่กันได้หมด แล้วก็ดูดีอีกต่างหาก นั่นก็คือรองเท้าผ้าใบนี่เอง สาว ๆ คงไม่พลาดที่จะมีรองเท้าผ้าใบไว้คู่กาย กันอยู่แล้วใช่ไหม

 

กางเกงขาสั้น ในลุคที่ให้ความแตกต่าง มากกว่าคำว่าชิล ชิล

ขาสวย ๆ เรียวยาว เรียบเรียน นอกจากจะให้ความรู้สึกเซ็กซี่แล้ว ยังให้ความรู้สึกถึงความเฮลตี้ได้อีกด้วย  มีสาว ๆ ไม่น้อยที่ชอบใส่กางเกงขาสั้นเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะงานไหน งานอะไร หากใส่กางเกงขาสั้นได้ แม่นางทั้งหลายก็ไม่ยอมพลาดเด็ดขาด แต่ด้วยความที่กางเกงขาสั้นให้ความรู้สึกชิลและสบาย ๆ ในตัวเองอยู่แล้ว จึงทำให้เวลาที่สาว ๆ เลือกแต่งตัวออกจากบ้านด้วยกางเกงขาสั้น ลุคและสไตล์ในวันนั้น ก็จะเป็นสาวชิล สาวสปอร์ต ชิค ๆ คูล ๆ กันซะเป็นส่วนใหญ่ จนหลายคนคิดว่าเป็นได้แค่ชุดลำลองเท่านั้นไปโดยปริยาย

แล้วถ้าหากอยากใส่กางเกงขาสั้น แต่ไม่อยากได้ลุคชิลจนเกินไปบ้างหล่ะ ทำยังไงเมื่อใส่ขาสั้นแล้ว ให้ลุคดูแตกต่างไป เก๋ไก๋ขึ้น เปรี้ยวจี้ด สวยจัด หรือเท่จนคนเหลียวมองบ้าง จริง ๆ ไม่ยากเลย แค่มีความกล้า เชื่อมั่น และมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เป็น แค่นี้สาว ๆ ก็ได้อะไรที่แตกต่าง และดูดีขึ้นได้ในอีกหลายเลเวล

จับคู่กางเกงขาสั้น กับไอเทมอะไรบ้าง ที่ทำให้คุณแตกต่าง และสวยขึ้นอย่างง่ายดาย

  1. เสื้อเชิ้ตตัวใน สอดชายในกางเกงขาสั้น แล้วใส่เสื้อคลุมที่มีโครงสร้างสวย ๆ หรือจะเข้าเอวนิด ๆ ยิ่งดีคาดเข็มขัดเส้นโต ใส่รองเท้าส้นสูง แค่นี้ก็ทั้งเปรี้ยว ทั้งเท่แล้ว
  2. เสื้อกั๊กสวย ๆ สักตัว ใส่ทับเสื้อยืด หรือเสื้อเชิ้ตตัวใน ง่าย ๆ แค่นี้ ก็เก๋ขึ้นมาในทันที อย่าลืมสายสร้อยเส้นยาว เพิ่มดีเทลเข้าไปให้น่ามองอีกสักนิด
  3. เสื้อเอวลอยนิด ๆ เพิ่มความน่ามองมากขึ้น แต่ไม่ต้องลอยมากนัก เพราะจะดูเป็นการจงใจใส่สไตล์เซ็กซี่มากจนเกินไป เลือกเป็นเสื้อคอตั้ง ตัวสั้น รองเท้าส้นสูง กระเป๋าหนังสักใบ ก็ดูดีขึ้นได้ไม่ยากแล้ว
  4. เสื้อแฟชั่นผู้หญิง ผ้าชีฟอง จับจีบช่วงหัวไหล่ หรือเสื้อแขนตุ๊กตา สอดชายเข้าในกางเกง คาดเข็มขัดเส้นเล็ก ๆ รองเท้าส้นสูง ลุคนี้ขาดเครื่องประดับไม่ได้ เยอะหน่อยยิ่งดูน่ารัก สร้อยข้อมือ หรือกำไลหลาย ๆ วง กับต่างหูแบบห้อยตุ้งติ้ง เพิ่มเสน่ห์ของความผู้หญิงให้ได้มากมาย
  5. เสื้อคอเต่า แขนยาว สีพื้น สอดชายเข้าในกางเกง คาดเข็มขัด สะพายกระเป๋าหนัง ลุคนี้รองเท้าหนังต้องมา ได้ความเป็นอาร์ตตัวแม่ได้ทันที สไตล์นี้เท่และมีความเป็นตัวเองมาก

เอาใจสาวรักกางเกงขาสั้นแบบนี้แล้ว อย่าลืมลองนำไอเดียเหล่านี้ไปแต่งกัน จับคู่ให้ลงตัว เปลี่ยนความชิล ให้ดูดีขึ้นได้อย่างแน่นอน  ที่สำคัญอย่าลืมดูแลเรียวขาให้นวลเนียน ครีมบำรุงทาเข้าไป อย่าให้มีแผลมีรอยเขียวช้ำ หากอยากเป็นสปอร์ตี้เกิร์ลขึ้นอีกสักนิด  อย่าลืมเน้นออกกำลังกายท่าบริหารขาให้เรียว กระชับ เพิ่มความมั่นใจขึ้นได้อีกหลายเยอะเชียว

 

ลายสก็อตไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แมทซ์ให้เป็นสักนิด ไม่แป้กแน่นอน

สาว ๆ หลายคนแอบหลงรักเสื้อลายสก็อต แต่กลับไม่กล้าใส่ เพราะกลัวป้าบ้างหล่ะ กลัวแต่งออกมาแล้วดูเช้ยเชยบางหล่ะ ทั้ง ๆ ที่เสื้อลายสก็อต ถือเป็นไอเทมที่คลาสสิกตลอดกาลอีกแบบหนึ่งเลยทีเดียว เพราะกลับมาฮิตวนไปอย่างสม่ำเสมอ สาวคนไหนที่อยากลองใส่เสื้อผ้าลายสก็อตดูบ้าง ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปใช้ จะช่วยให้สาว ๆ สนุกกับการใส่เสื้อผ้าลายสก็อตได้อีกมากทีเดียว

5 ไอเดียสำหรับการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าลายสก็อต แบบง่ายแสนง่าย

  1. เสื้อเชิ้ตลายสก็อต จับคู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้น ขาดนิด ๆ เซอร์หน่อย ๆ ใส่เสื้อทับเข้าไปในกางเกง หาเข็มขัดเล็ก ๆ สักเส้น ที่สำคัญลุคนี้จะสมบูรณ์ได้ ต้องไม่พลาดรองเท้าผ้าใบเด็ดขาด แต่ถ้าอยากได้เปรี้ยว ต้องรองเท้าบูธสั้น เปรี้ยวได้ไม่ผิดหวังแน่นอน
  2. เสื้อยืดสีขาว กับกางเกงขายาว หรือขาสั้น แล้วใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตคลุมเข้าไป สายสร้อยเส้นยาวสักเส้น แค่นี้ก็ทำให้ได้ความชิล ชิค คูล ได้อย่างไม่ยากเลย
  3. เสื้อเชิ้ตลายสก็อต กางเกงขายาว หรือกระโปรงสั้น สอดชายเสื้อไว้ด้านใน แล้วคลุมด้วยเสื้อคาดิแกนสีพื้น เลือกสีอ่อน ๆ หรือจะเป็นเอิร์ธโทนยิ่งดี เลือกให้สีไปในทางเดียวกัน จับคู่กับรองเท้าคัทชู มีส้น หรือไม่มีส้นก็สวยทั้งหมด ให้ความรู้สึกแบบผู้หญิงเท่ ๆ ได้เป็นอย่างดี
  4. เสื้อเชิ้ตลายสก็อตกับเอี๊ยมยีนส์ ลุคนี้น่ารักสุด ๆ ชิล และให้อารมณ์แบบบอย ๆ แต่ยังไงก็น่ารัก อย่าลืมจับคู่กับรองเท้าผ้าใบ ถ้าเป็นผ้าใบสีขาว ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นขึ้นมาอีกมากทีเดียว
  5. เดรสลายสก็อต ให้ความเป็นผู้หญิง ได้เป็นอย่างดี สไตล์นี้จะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป ก็อยู่ที่การเลือกรองเท้านี่แหละ หากเลือกเป็นรองเท้าผ้าใบ จะได้ลุคสาวชิล แบบแคชชวลสไตล์ แต่หากเลือกเป็นรองเท้าคัทชู บูธสั้น งานนี้หวานซ่อนเปรี้ยวมาแน่นอน

ไอเดียการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าลายสก็อตนั้น ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลย เพราะสไตล์ของเสื้อผ้าลายนี้ ก็มุ่งเน้นไปที่ความสบาย ๆ อยู่แล้ว เพียงแค่สาว ๆ เลือกสีให้เหมาะกับการมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ แค่นี้ก็รอดแน่นอน อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ขนาดของลาย สิ่งนี้จะช่วยทำให้สวยกลมกล่อมขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อทีเดียว หากคุณเป็นคนตาโต ลายสก็อตที่ใหญ่หน่อย จะรับกับดวงตาของคุณได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณเป็นคนตาเรียว เล็ก ลองเลือกลายสก็อตขนาดเล็ก จะทำให้คุณดูน่ารักขึ้นมาได้ง่าย ๆ เลย

เสื้อผ้าลายสก็อตเป็นไอเทมที่ฮิตตลอดกาล สาว ๆ ที่อยากมีติดตู้ไว้สักตัว ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปใช้เลือกเสื้อผ้าลายสก็อต หรือจะนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ร่วมกับเสื้อผ้าที่มีอยู่ ก็จะทำให้สนุกกับการแต่งตัวในสไตล์ที่ต่างออกไปได้อย่างไม่ยากเลย

 

2018 ปีทองของสาวเท่ แต่งตัวให้เก๋ แต่งให้เท่ สมาร์ท มาดมั่น

                 การแต่งกายของแต่ละคล เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้เราได้เป็นอย่างดี การเลือกเสื้อผ้า มักจะมาจากตัวตนภายในของเรา เรียกง่าย ๆ ว่าเราเป็นแบบไหน เราก็จะแต่งตัวแบบนั้นนั่นเอง ทีนี้ถ้าเราอยากจะมีสไตล์อื่น ๆ ดูบ้าง เช่น อยากเท่ มาดมั่น ต้องทำยังไงกันดี ที่จริงนั้นไม่ยากเลย แค่ทำความรู้จักกับสไตล์นี้ แล้วหาเสื้อผ้าที่ใช่ ไม่ว่าจะของเก่ามามิกซ์แอนด์แมทซ์ หรือจะหาซื้อใหม่ก็ไม่มีใครห้ามแต่อย่างใด

รูปแบบการแต่งตัวที่เน้นความเท่ในทุกมุมมอง มักเป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจ คล่องแคล่ว และทะมัดทะแมง แฝงไว้ด้วยความสง่างาม น่าค้นหา  เสื้อผ้าที่พวกเธอเลือกใส่ จะไม่เน้นความสนุกสนานของลวดลายมากนัก จะเน้นไปที่สีพื้น และคุมโทน คือสิ่งแรกที่เธอมองหา หากเลือกเสื้อที่มีสีจี้ดจ้าด ก็ควรเบรคด้วยกางเกงสีเข้มหม่น หรืออาจจะใส่เสื้อคลุมเพื่อลดสีที่จัดจ้านลงไปซักนิด เพราะไม่อย่างนั้น ความเปรี้ยวจะมาแย่งซีนความเท่ไปในทันที ลุคนี้ไม่ได้จำกัดแค่ในเรื่องของเสื้อยืด เพราะไปกันได้ดีทีเดียว จับคู่กับกางเกงยีนส์ขายาว ขาดหรือไม่ขาดก็ได้ รองเท้าหนังเท่ ๆ และที่สำคัญการเพิ่มเสื้อคลุม จะทำให้ความธรรมดาของเสื้อยืดหายไปในทันที  สาว ๆ ลองหาเสื้อคลุมดี ๆ ไว้ใช้งานสักตัว ก็คุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างแน่นอน เพราะเสื้อคลุมสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของการแต่งตัวได้ในทันที ส่วนสาวคนไหนที่นิยมใส่เสื้อเชิ้ต ควรใส่เสื้อเข้าในกางเกง แล้วคาดเข็มขัดหนังดี ๆ สักเส้น โทนสีให้แมทซ์กับรองเท้า เพิ่มความเท่เด้วยเสื้อกั๊กซะหน่อย เท่านี้ก็สมาร์ท เก๋ เท่ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว

กางเกงที่ใส่แล้วเท่ ๆ ส่วนใหญ่ จะเป็นกางเกงเข้ารูป เพราะได้ความทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว กางเกงยีนส์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก และหลาย ๆ คนก็ชอบในความเป็นยีนส์อยู่แล้ว หรือจะเป็นกางเกงเลคกิ้งสีเข้ม ที่สวยไม่ใช่น้อยเวลาจับคู่กับรองเท้าหนัง หรือรองเท้าบูธ เป็นลุคที่เท่ เก๋ และแอบเปรี้ยวนิด ๆ สาวมาดมั่นใส่กระโปรงได้หรือเปล่า ข้อนี้เป็นที่สงสัยของผู้หญิงที่ชอบใส่กระโปรงเป็นแน่ ขอบอกเลยว่ากระโปรงสั้น กับเสื้อคลุม รองเท้าหนัง คือความเท่ สมาร์ท ในทุกมุมมองเลยทีเดียว

ใครที่อยากลองเปลี่ยนแนวการแต่งตัว ให้มีภาพลักษณ์ที่เท่ มั่นใจ อย่าลังเล คิดแล้วลงมือเลย เพราะทำได้ไม่ยากซักนิด จริง ๆ แล้วลุคนี้ทำให้ผู้หญิงดูเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองได้ดีทีเดียว ลองเปลี่ยนวันธรรมดา ให้กลายเป็นวันที่มีพาวเวอร์ดู ด้วยการแต่งตัวเท่ ๆ แล้วอัพเฟสให้เพื่อนกดว้าวดูบ้าง อาจจะติดใจจนเข้ากลุ่มสาวเท่ เก๋ สมาร์ท ไปอีกคนหนึ่งก็ได้

กางเกงยีนส์หุ่นดี เลือกแบบไหน ให้เหมาะกับทรวดทรง

                 กางเกงยีนส์ เป็นความคลาสิกที่อยู่คู่กับวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน บางปีอาจจะเงียบ ๆ ไปบ้าง เพราะถูกเทรนด์แฟชั่นของปีนั้น ๆ แซงขึ้นมา แต่อย่างไรก็ไม่เคยตายจากไป ยังคงครองใจสาว ๆ หนุ่ม ๆ ได้ตลอดกาล แต่ก็ยังมีใครบางคนนะที่รู้สึกไม่มั่นใจกับการใส่กางเกงยีนส์ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มักจะคิดไปว่ารูปร่างตัวเองไม่สวย ใส่แล้วไม่เหมาะ ก็เลยไม่เคยได้เท่ กับกางเกงยีนส์เหมือนคนอื่น ๆ เค้าเลย

ถ้าหากสาว ๆ รู้จักกางเกงยีนส์มากขึ้น และเข้าใจในทรวดทรงองค์เอวของตัวเองเป็นอย่างดี จะรู้เลยว่ากางเกงยีนส์ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด มาว่ากันเรื่องของกางเกงยีนส์ก่อน นอกจากจะมีความคลาสิกแล้ว ยังมีรายละเอียดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทรวดทรง กับสไตล์การแต่งตัวได้เป็นอย่างดี

กางเกงยีนส์แบ่งออกเป็น 5 แบบ ได้แก่

  1. Skinny Jeans กางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ รัดรูป เน้นเรียวขา
  2. Straight Legs Jeans กางเกงยีนส์ทรงกระบอก ขาตรง
  3. Boot Cut Jeans กางเกงยีนส์ขาม้า ปลายขาบานเล็กน้อย
  4. Flared Jeans กางเกงขาบาน เริ่มบานตั้งแต่ช่วงหัวเข่าลงไปเลย
  5. Boyfriend Jeans กางเกงยีนส์ทรงบอย ทรงเหมือนกางเกงยีนส์ผู้ชาย ไม่เน้นเรียวขา

ทีนี้มาดูกันว่า รูปร่างของสาว ๆ แต่ละทรวดทรง ว่าควรเลือกใส่กางเกงยีนส์แบบไหนถึงจะสวย และดูหุ่นดีขึ้นทันที เริ่มต้นจากหุ่นกลม ๆ น่ารัก น่ากอดกันก่อน

  • ทรวดทรงแบบแอปเปิ้ล คือมีความกลมช่วงกลางลำตัว หรือเนื้อส่วนหน้าท้อง เอว สะโพก เยอะ แต่ไหล่เล็ก ขาเล็กเรียว หุ่นแบบนี้ต้องเลือกกางเกงยีนส์ทรงกระบอก (Straight Jeans) และที่สำคัญ ต้องเอวสูงเท่านั้น เพื่อช่วยเก็บเนื้อส่วนเกินของสาว ๆ และเน้นให้เห็นเอวมากขึ้น
  • ทรวดทรงแบบลูกแพร์ ไหล่ไม่กว้าง เอวมีให้เห็น แต่ช่วงสะโพกใหญ่ กางเกงยีนส์ที่เหมาะที่สุดคือ ทรงขาม้า (Boot Cut Jeans) ที่มีปลายขาบานเล็กน้อย เน้นเอวสูง ส่วนกางเกงยีนส์ทรงบอย (Boyfriend Jeans) ก็ใส่ได้สวย และดูชิค ชิล มากทีเดียว ถ้าต้องการเท่ เนี๊ยบ ขึ้นมาอีกสักนิดกางเกงยีนส์ทรงกระบอก (Straight Jeans) ก็ตอบโจทย์ได้ดี
  • ทรวดทรงแบบหนังสือพิมพ์ ตรง ๆ มีส่วนโค้งเว้าที่ไม่แตกต่างกันมาก ใครที่มีหุ่นแบบนี้ อย่าคิดว่าตัวเองหุ่นทื่อ ๆ เชียว แท้จริงนับว่าเป็นหุ่นที่แต่งตัวได้สวยทีเดียว ใส่อะไรก็สวยได้ง่าย ส่วนกางเกงยีนส์ ควรเลือกทรงสกินนี่ (Skinny Jeans) เอวสูง เอวต่ำ ได้หมด แต่ทรงที่จะช่วยให้สาว ๆ ดูน่ารักสะดุดตามากขึ้น นั่นคือ ทรงบอย (Boyfriend Jeans)
  • ทรวดทรงแบบนาฬิกาทราย หุ่นในฝันของสาวทุกนาง เอวเป็นเอว คอดกิ่วชัดซะขนาดนั้น ใส่อะไรก็สวย เน้นให้สวยเริ่ดยิ่งขึ้นด้วยกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ (Skinny Jeans) รองเท้าส้นสูง หรือผ้าใบ ก็ได้ทั้งนั้น น่าชื่นชมทีเดียว

เทคนิคการเลือกกางเกงยีนส์ให้ใส่แล้วดูดี๊ดี สามารถนำไปปรับใช้กับกางเกงแฟชั่นอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน หากใครเช็คแล้ว กางเกงของเราไม่ใช่หุ่นเรา อย่าเสียดาย ลองไปหาทรงที่เหมาะสมกับรูปร่างใส่สักตัว และกางเกงตัวนั้นแหละ คือกางเกงของเราอย่างแท้จริง

จะใส่ชุดแดงทั้งที เลือกให้ดีอีกซักนิด รับรองปังกว่าเดิม

                 ร้อนแรง และแสนเซ็กซี่ คือนิยามส่วนหนึ่งของสีแดง สีโปรดปรานของผู้หญิงหลายคน ส่วนใหญ่เรามักจะเชื่อกันว่า ว่าผู้หญิงที่จะใส่ชุดแดงแล้วสวย ต้องเป็นคนหุ่นดี มีความเซ็กซี่นั่นแหละ ถึงจะใส่ชุดแดงออกมาแล้วสวยบาดตา จนต้องเหลียวมอง แต่ถ้าลองสังเกตกัน จะเห็นชัดเลยว่า จริง ๆ แล้วสีแดงนั้นมีให้เลือกเยอะมาก แบบของชุดแดงที่ตัดออกมา ก็มีหลากหลายสไตล์ ไม่ใช่เน้นแค่เพียงความร้อนแรงเหมือนที่เราคิดกันเท่านั้น

ชุดแดง เป็นชุดที่ให้พลังกับคนที่สวมใส่ และยังส่งพลังให้กับคนมองด้วย ดูเป็นคนมีความมั่นใจสูง เด็ดขาด และมีอำนาจ คนไหนที่ใส่ชุดแดงทั้งชุด จะดูโดดเด่นกว่าใครขึ้นมาในทันที ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าโทนสีแดงมันเตะตามาก คนที่ชอบสีแดง เลยคิดว่าต้องเลือกแดงที่สุดเข้าไว้ เพื่อความโดดเด่นเหนือใคร นั่นเป็นความคิดที่อาจเรียกว่าพลาดมากได้เลย เพราะจริง ๆ แล้วบางครั้งมันก็แดงเกินไป มองไกล ๆ ก็ยังเห็น ที่เห็นนี่คือเห็นเสื้อลอยมาแต่ไกลนะ ใครใส่ยังมองไม่ออกเลย จริง ๆ แล้วสีแดงเป็นสีที่ใคร ๆ ก็ใส่ได้ แค่เลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง แค่นั้นก็เจิดจรัสอย่างมีพลังได้แล้ว แบบของชุดก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ลองมาดูโทนต่าง ๆ ของชุดแดงกัน เพื่อเป็นไอเดียสำหรับคนที่อยากใส่สีแดง แต่ยังไม่กล้า

  • ชุดแดงโทนร้อน ได้แก่ สีแดงสด สีแดงอมส้ม สีแดงออกเหลือง สีแดงอิฐ
  • ชุดแดงโทนเย็น ได้แก่ แดงม่วง แดงหม่น แดงเลือดนก แดงอมชมพู

ทีนี้จะเห็นแล้วว่า สีแดง ไม่ได้มีแค่แดงสดจัดแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น มาดูกันว่า คุณเหมาะกับสีแดงแบบไหนกัน ก่อนอื่นหงายข้อมือขึ้นมาดูเส้นเลือดกันก่อน ดูซิว่าเส้นเลือดที่เห็นเป็นสีอะไร เขียว เขียวออกน้ำเงิน หรือสีม่วง

  • สาวที่เห็นเส้นเลือดสีเขียว ชุดแดงที่จะส่งให้มีพลัง และเปล่งประกาย ผิวผ่องแบบสุด ๆ นั่นคือชุดแดงโทนร้อน
  • สาวที่เห็นเส้นเลือดสีเขียวออกน้ำเงิน และสีม่วง ต้องเลือกชุดแดงโทนเย็น เพื่อให้เกิดความสง่างาม หรูหรา และดูแพง

รู้แบบนี้แล้ว ลองมองหาชุดแดงโทนที่ถูกต้องมาลองใส่ดู ถ้าเลือกถูก ชุดแดงชุดนั้น จะกลมกลืนไปกับตัวคุณอย่างกลมกล่อมที่สุด  แต่หากชุดแดงนั้นสว่างเว่อร์ และสีจัดแบบพุ่งกระจายออกมาแล้วล่ะก้อ แปลว่าตัวคุณพลังไม่พอที่จะใส่ชุดแดงโทนนั้น ลองหันไปเลือกโทนที่ดรอปลงมาอีกสักนิดจะดีกว่า

การเลือกใส่ชุดสีแดง สามารถช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดูมีพลัง และสง่างามขึ้นได้ ภายในสถานการณ์ที่ต้องการความเจิดจ้า น่าที่ง สีแดงเป็นทางเลือกที่ดี เพียงแค่อย่าลืมใช้ทริคเล็ก ๆ ในการเลือกโทนสีให้ถูกต้อง เท่านี้สีแดงก็ไม่น่ากลัวสำหรับคุณอีกต่อไป

บลัชออนสีไหน ขับหน้าใสเหมือนออเจ้าการะเกด

                 ผู้หญิงกับแก้มแดง ๆ คือความสวยงามที่ธรรมชาติแต่งแต้มมาได้อย่างลงตัว บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี มีเลือดฝาด ผิวพรรณที่มีความละเอียดใส อย่าว่าแต่สาว ๆ ชอบเลย หนุ่ม ๆ ก็แพ้แก้มแดง ๆ ใส ๆ แบบนี้เหมือนกัน เพราะอย่างนั้น ผู้หญิงจึงชอบแต่งแต้มพวงแก้มให้มีสีสันระเรื่อ เพื่อเติมความสดใสให้กับใบหน้า  บางคนแต่งหน้าน้อยมาก เหมือนไม่ได้แต่ง แต่ขาดไม่ได้เชียว ต้องปัดบลัชออนเพิ่มความมั่นใจในทุกครั้ง

อยากได้แก้มระเรื่อแบบเป็นธรรมชาติ จะปัดบลัชออนตำแหน่งไหนดี 

                เห็นแต่ดาราปัดแก้มสวยเด้งทุกคน พอไปลองปัดดู เอ๊ะ ทำไมไม่ออกมาเหมือนเค้า นั่นเป็นเพราะเรานึกอยากจะปัดแก้ม เราก็ปัด ๆ ไปหรือเปล่า ลองสังเกตดูจะเห็นว่า ผู้หญิงบางคนปัดบลัชออนบริเวณหน้าแก้ม แต่บางคนปัดบริเวณโหนกแก้มเฉียงขึ้นไป ก่อนอื่นจำไว้ให้แม่นเลย ห้ามปัดบลัชออนต่ำกว่าปีกจมูกเป็นอันขาดเชียว เพราะนั่นคือการเน้นว่าพวงแก้มของเราว่ามันย้วยแล้วนะ ปัดแบบนี้เพิ่มอายุให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัวรึเปล่า ทีนี้ตำแหน่งล่ะ จะหน้าแก้ม หรือโหนกแก้มดี ใช้ทริคง่าย ๆ อีกเช่นกัน ยิ้มเข้าไว้ แล้วตรงไหนที่แก้มนูนเด่นออกมา ตรงนั้นแหละพวงแก้มธรรมชาติของคุณล่ะ ปัดบลัชออนเบา ๆ ตรงนี้ หน้าใส แบบเป็นธรรมชาติขึ้นโดยไม่ต้องพยายามเลย ส่วนเทคนิคอื่น ๆ ที่มืออาชีพเค้าใช้กัน ลองศึกษาให้แม่นก่อน เพราะถ้าไม่เป๊ะเหมือนมืออาชีพ หน้าที่หวังจะให้อ่อนเยาว์ แก้มใสระเรื่อ อาจจะไม่เป็นดังหวังได้

หน้าใส แก้มสวย ต้องไม่แดงเว่อร์เด็ดขาด 

                สีของบลัชออนก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าสีที่เลือก ปัดแล้วไม่เข้ากับผิวหน้าของเรา จะทำให้ดูสูงวัยขึ้นมาในทันที หน้าจะดรอปลง แบบช่วยอะไรไม่ได้เลยทีเดียว สีที่เหมาะสมสำหรับสาวผิวขาว จะเป็นโทนสีที่เป็นกลุ่มของสีชมพูทั้งหลาย ถ้าคุณขาวมาก สีชมพูอ่อน อาจจะกลืนหายไปกับผิวได้ ลองเลือกเฉดที่เข้มขึ้นมาอีกเล็กน้อย เพื่อให้เห็นสีของบลัชออนได้อย่างชัดเจนขึ้น จะเป็นสาวเลือดฝาด สุขภาพดีขึ้นได้ทันที  ส่วนบลัชออนกลุ่มของโทนสีส้ม  น้ำตาล เหมาะกับสาวที่มีผิวเหลือง ผิวสองสี มากกว่า  เพราะเข้ากับสีผิว ทำให้มีความเป็นธรรมชาติสุด ๆ ดูเปล่งปลั่งขึ้น และไม่ซีดเซียว

พวงแก้มระเรื่อ เป็นที่ปรารถนาของสาวทุกคน บลัชออนช่วยตอบโจทย์ได้ก็จริง แต่ยังไงก็ต้องเน้นความเป็นธรรมชาติเข้าไว้ ปัดให้เบามือ หากดูอ่อนไป ก็ปัดเพิ่มไปอีกนิด วน ๆ ให้กลืนเป็นธรรมชาติกับผิว เพราะถึงแม้เราจะไม่ได้แก้มแดงตามธรรมชาติ เราก็ต้องสร้างความเป็นธรรมชาติขึ้นมาเองให้ได้   สาว ๆ ที่อยากหน้าใส ให้ความสำคัญกับบลัชออนให้มาก เพราะไอเท็มนี้สร้างความสวยใส และเติมความน่ารักให้คุณ ได้อย่างดีที่สุดเชียว

เปลี่ยนความเรียบง่าย ให้หรู ดูโก้ ไม่ต้องมโน ก็แต่งได้

                 ภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูดี ช่วยสร้างเสน่ห์ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคน เพราะเป็นด่านแรกที่ผู้คนจะมองเห็นเรา มีคนพูดกันเยอะแยะว่า เราควรต้องดูดีเสมอ ก็เห็นจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะพลังของเรา ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เรามีบุคลิกภาพดีนั่นเอง และตรงนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องหน้าตาใดใดทั้งสิ้น บุคลิกดีก็ทำให้หน้าตาดีไปโดยปริยายนั่นแหละ เคยได้ยินกันไหมกับคำกล่าวว่า “บุคลิกดี มีชัยไปกว่าครึ่ง”

บุคลิกภาพเป็นเรื่องที่สร้างกันได้ ใช่แล้วได้ยินไม่ผิดเลย ส่วนหนึ่งก็มาจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเรานี่เอง คนที่ไม่ชอบแต่งอะไรมาก ๆ แต่อยากดูดี เป็นไปได้ว่า อาจจะชอบความเรียบง่าย สบาย ๆ หากลองปรับอีกสักนิด เพิ่มความโก้เข้าไปอีกหน่อย ใส่ความหรูเข้าไปอีกนิด เพียงแค่นี้ ลุคก็เปลี่ยนไปอย่างมหาศาลแล้วโดยไม่ต้องวุ่นวายเสียเวลาอะไร แถมบุคลิกภาพก็ดูดีขึ้นได้ในทันที

เราสามารถเติมแต่งความเรียบง่ายของคุณ ให้โก้หรูขึ้นได้อย่างไรบ้าง 

  • หากคุณเป็นคนที่ชอบใส่เสื้อเชิ้ตตัวเก่งกับกระโปรง หรือกางเกงขายาว คุณสามารถเติมแต่งบุคลิกภาพด้วยเสื้อคลุม หรือเสื้อแจ็คเก็ตดี ๆ สักตัว เปลี่ยนรองเท้า Flat หรือรองเท้าส้นเตี้ย เป็นรองเท้าส้นสูงขึ้นมาอีกนิดหน่อย แค่สองอย่างนี้ คุณก็ดูโก้เก๋ขึ้นได้แล้ว ง่ายเสียเหลือเกิน
  • การเติมความเก๋ ด้วยผ้าพันคอสวย ๆ จะสั้นหรือยาวก็ได้ เลือกลวดลายที่เรียบง่ายในแบบที่ชอบ ส่วนสีสัน ก็เลือกได้ทั้งแบบกลมกลืน หรือเป็นสีที่โดดเด่นสะดุดตา เชื่อได้เลยว่า คุณจะดูแพงขึ้นมาอย่างง่าย ๆ ทีเดียว
  • ไอเท็มอีกอย่างที่คนมักมองข้าม นั่นคือ เข็มกลัดแฟชั่นสวย ๆ เลือกมาสักอัน ให้มีขนาดกำลังดีกับรูปร่าง อย่าเล็กจนเกินไป เดี๋ยวจะมองไม่เห็น เสียเวลาติดกันไปอีก และก็ไม่ควรให้ใหญ่อลังการเกินไปเช่นกัน เข็มกลัดสวย ๆ ทำให้ชุดเรียบ ๆ ดูมีความน่าสนใจขึ้นได้ทีเดียว
  • เข็มขัดโต ๆ สักเส้น ก็เป็นไอเท็มที่ทำให้โดดเด่นได้เช่นกัน แถมยังเน้นเอวให้คอดกิ่ว ดูเป็นคนมีเอวขึ้นมาในทันที คาดทับเสื้อที่ใส่ หรือจะคาดเอวตามปกติก็ได้  เลือกสีของเข็มขัดให้เข้ากับชุด หรือเข้ากับรองเท้าก็ยิ่งดีใหญ่ รองเท้ามีส้นงานนี้ขาดไม่ได้ ให้เข็มขัดกับรองเท้าเป็นผู้ช่วยส่งให้คุณดูมีสไตล์มากขึ้น

เปลี่ยนความเรียบง่าย เป็นความโก้ หรู ง่าย ๆ แบบนี้ ทำเองจัดเองได้แน่นอน ไม่ต้องนั่งมโนไปว่าแต่งยังไงก็ไม่ดูดีเหมือนคนอื่นอีกต่อไป ให้ความสำคัญ และแบ่งเวลาให้กับการอัพลุคอีกสักนิด สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และที่สำคัญคุณจะมีพลังมากขึ้นกว่าเก่าอย่างแน่นอน

รองเท้า กับ ชุดสวย จับคู่แบบไหน สุดแมทซ์ และไม่หลุดธีม

                 เรื่องของแฟชั่น ยังคงเป็นเรื่องที่สนุก และน่าติดตามสำหรับใคร ๆ หลายคนอยู่เสนอ บางครั้งถึงกับเสพติดความทันสมัย ก็มีให้เห็นกันเยอะไป ด้วยความที่แฟชั่นไม่เคยหยุดนิ่ง มีการพัฒนาตลอด คนที่รักการแต่งตัว จึงมักจะมีเสื้อผ้ามากมายเป็นพิเศษ ตู้เสื้อผ้าใหญ่แค่ไหน มีกี่ใบกี่ใบก็ไม่เคยพอสักที นั่นเป็นเพราะเห็นอะไรสวยก็ซื้อหมด อินเทรนด์ตลอดเวลา แต่ยังมีสายแฟชั่นอีกกลุ่ม ที่นิยมการมิกซ์แอนด์แมทช์ ไม่ว่าจะเป็นการขุดของเดิมที่มีอยู่ นำมาจับคู่กันใหม่ หรือจะเป็นของเดิมเก๋ ๆ กับของใหม่ ก็สร้างความสนุกในการจับคู่ให้ลงตัว และแมทซ์กัน ได้ชุดสวย ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย

นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยังมีไอเท็มสุดโปรดของสาว ๆ ที่เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของรองเท้านั่นเอง น้อยมากที่สาวคนไหนจะมีรองเท้าเพียงสองสามคู่ บางคนมีมากเกิน 10 คู่ด้วยซ้ำ ลองนับกันดูได้ ใส่ไม่ทันกาวเสื่อมเลยทีเดียว ทีนี้เมื่อมิกซ์แอนด์แมทช์ เสื้อผ้าได้ เราก็ต้องไม่ลืมที่จะหารองเท้าที่ลงตัวมาคู่กับชุดนั้นด้วย

รองเท้าแบบไหน สีอะไร คู่กับชุดอะไร ที่ลงตัวแบบสุด ๆ

รองเท้าที่สาว ๆ ควรมีติดตู้ไว้เป็นรองเท้าสามัญประจำบ้าน ที่สามารถแมทช์กับชุดสวยตัวเก่งได้ง่าย ได้แก่ รองเท้าสีนู้ดนั่นเอง เลือกเป็นรองเท้ามีส้นไว้ก่อน จะส้นเตี้ย ส้นสูง ก็เอาที่เราใส่แล้วสบาย เข้ากับรูปเท้า ไม่กัดเท้า ก็โอเคแล้ว รองเท้าสีนู้ดสามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ และเข้ากันได้กับทุกชุด ส่วนชุดอื่น ๆ ควรจับคู่กับรองเท้าแบบไหน มาดูกัน

  1. ชุดแบบมีลวดลาย ถ้าคุณโดดเด่นเพราะลวดลายของชุดแล้ว รองเท้าควรจะเรียบง่าย สีพื้น ๆ จะดีที่สุด
  2. ชุดที่ค่อนข้างเรียบ คุณสามารถสวยขึ้นได้ง่าย ๆ ด้วยรองเท้าที่หรูหรา มีลวดลาย หรือมีสีสันที่สะดุดตาก็ได้ทั้งนั้น จะทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมาในทันที
  3. ชุดชิล ๆ รับซัมเมอร์ หรือไปเที่ยวทะเล รองเท้าแบบโชว์เท้าขาว ๆ จะทำให้คุณเก๋ และดูเซ็กซี่มากขึ้น
  4. ชุดเดรสแบบลำลอง เหมาะมากกับรองเท้าผ้าใบในยุคนี้
  5. ชุดแบบ Casual Style หรือชุดลำลองที่ไปได้ในทุกพื้นที่ รองเท้ามีส้น ไม่ว่าจะส้นเตี้ย หรือส้นสูง สามารถเข้ากับชุดแบบนี้ได้ทั้งหมด

หากเป็นคนที่รักการแต่งตัว ต้องพิถีพิถันกับการเลือกรองเท้าด้วย เพราะนับเป็นไอเท็มที่เสริมบุคลิกภาพได้อย่างชัดเจน สามารถกำหนดธีมในวันนั้นได้ด้วยรองเท้าเสียด้วยซ้ำ  เพราะฉะนั้นการมีรองเท้าเกินสองคู่ ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่หากมีมากเกินไป นั่นอาจจะเป็นเพราะเราไม่รู้จักวิธีแมทซ์ที่ลงตัวก็ได้ ลองจับคู่ชุดสวยกับรองเท้าที่มีดู คุณจะได้แนวทางการแต่งตัวที่มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน