การบำรุงที่อาจลืมบางอย่าง จนก่อให้เกิดปัญหาสิว

การบำรุงผิวพรรณ ถ้าเปรียบเทียบดูแล้ว คนส่วนใหญ่มักสักแต่ซื้อครีมทาหน้า ทาตัว รีบนำเอามาทา เอามาลอง เห็นเพื่อนกำลังฮิตตัวไหน มีครีมติดกระแสกันหน่อยก็รีบซื้อมาใช้ โดยในหลาย ๆ ครั้งเรากลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับพื้นฐานผิวพรรณของเราเลย บางคนมีลักษณะผิวที่แห้ง บางคนผิวมัน บางคนผิวแพ้ง่าย โดนอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็แพ้แล้ว และวันนี้แหละค่ะที่เราจะพาสาว ๆ มารู้วิธีของการดูแลผิวหน้า และมาดูกันว่าจะมีใครแอบอมยิ้มให้กับวิธีที่ว่านี้กันหรือเปล่า ไปติดตามอ่านกันเลยดีกว่านะคะ…

มีบรรดาสาว ๆ หลาย ๆ คนเอง ยังไม่รู้ถึงสภาพผิวของตัวเองดีนัก แต่ก็เลือกที่จะอยากลองกับผลิตภัณฑ์ออกใหม่เสมอ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ก็ดีหมดนะคะ ถ้ามีมาตรฐาน ผ่าน อย. เว้นแต่ว่าเราจะแพ้จริง ๆ เท่านั้น และสิ่งแรกเริ่มที่ต้องขอออกมาบอกเลย ว่าคนเรามักชอบละเลยเป็นที่สุดก็คือ

1.การล้างมือ

บางครั้งบางทีกลับมาจากการเรียน การทำงานเหนื่อย ๆ ปุ๊บ เราเข้าห้องน้ำก็บีบผลิตภัณฑ์ล้างหน้าใส่มือ แล้วก็ถูไปที่หน้า ทั้ง ๆ ที่มือก็ยังไม่ได้ล้างเลย แล้วที่เรายังไม่ได้ล้างก็ละลายไปกับผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับหน้าเรา ฉะนั้นแล้วเราต้องฟอกมือก่อน ล้างมือก่อนเป็นอันดับแรก

2.เช็ดเครื่องสำอาง

ถ้าเราแต่งหน้าทำผม ให้เราเช็ดเครื่องสำอางก่อนที่จะเราจะล้างหน้า ใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก่อนก็ได้ ค่อย ๆ เช็ด ก่อนเช็ดก็อาจจะเปิดผิวด้วยน้ำอุ่นก่อน อาจจะใช้สำลีชุบน้ำอุ่นนิดหนึ่ง แล้วถึงทำการเช็ดผิวหน้า เพื่อให้การเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

3.จัดการรวมผม

บางคนอาจจะแต่งผมด้วย ซึ่งเราจะพลาดตรงนี้ไป เรามักจะเช็ดหน้าก่อนแล้วไปสระผม ขั้นตอนการเช็ดหน้าอาจจะยังไม่รวบผมก็ได้ แต่หากล้างหน้าแล้วไปสระผมเลย ปัญหามันก็คือ พวกสเปรย์มันก็จะกลับมาที่หน้าเราอยู่ดี  แล้วเราก็จะคิดว่าล้างหน้าแล้ว เราก็ไม่ล้างต่อ เราก็อาบน้ำเลย มันก็จะจะเกิดปัญหาไอตัวสิ่งที่มันอยู่ในผม พวกสเปรย์ทั้งหลายมันก็ละลายกับแชมพู มันก็จะไหลไปตามจร ใบหู คาง  เรา สุดท้ายก็เกิดเป็นผดผื่นขึ้น เกิดสิวขึ้นมาได้ นั้นเอง

และในส่วนที่มีคนบอกว่าการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นไม่ดี จริง ๆ แล้วคนเกาหลี คนญี่ปุ่น ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำเกือบร้อนเลยด้วยซ้ำ เพราะว่ามันเปิดรูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรกที่มันอุดไปหายได้  มันละลายได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามแต่นะคะ การล้างมือก็เป็นการทำความสะอาดในขั้นตอนแรก และส่งผลให้ขั้นตอนอื่น ๆ ที่ตามมานั้นสะอาด  จุดบกพร่อง รวมไปถึงไม่ทำให้ผิวหน้าของเรามีปัญหาในเรื่องสิว เมื่อสิวไม่มา รอยสิว รอยจุดด่างดำ ความหมองคล้ำก็ไม่มีมาให้เห็นแน่นอนค่ะ

 

เทคนิคการแต่งหน้าให้รอด ถ้าคุณทำรับรองเลยว่าสวยขึ้นเป็นกอง

เรื่องราวของความสวยความงามของผู้หญิง บอกเลยว่าเป็นวิธีการที่จะทำให้เธอนั้นตอบคำถามให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดีว่า แท้จริงแล้วอะไรบ้างที่เหมาะกับเขา ฉะนั้นแล้วก็คงไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดถ้าจะพบว่าเครื่องมือเสริมความงามของเธอทำไมถึงมากมายไก่กอง และหลัก ๆ เลยที่ขาดไม่ได้ ก็คือ “การแต่งหน้า” ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มเติมความงามแล้วยังช่วยบำรุงซ่อมแซมในบางจุดอีกด้วย

การแต่งหน้ามีหลายขั้นตอนมีหลายวิธีการ และวิธีการก็ไม่ได้มีถูกต้องหรือผิดเสมอไป อาจเพียงขึ้นอยู่ที่ความไม่รู้เท่านั้นเอง และหากสาว ๆ เองอยากที่จะรู้เพิ่มเติมแล้วละก็อย่ารอช้าอยู่เลยนะคะ

1.ปัญหาของรองพื้น

อันดับแรกปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยมากเกี่ยวกับการเกลี่ยรองพื้นไม่เนียน หรือเกลี่ยได้ยากเกิดจากการใช้รองพื้นในปริมาณที่มากเกินไป วิธีการง่าย ๆ ถ้าเกิดว่าเป็นลักษณะขวดปั๊ม อย่ากดจนสุดหัวปั๊มนะคะ พยายามกดมาทีละน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ แตะไปทีละจุดเพราะไม่อย่างนั้นการใช้มากเกินไปอาจทำให้รองพื้นไปกองอยู่ที่ผิวผิวหน้าก็จะไม่เรียบไม่เนียนสักที

2.เลือกใช้คอลซีลเลอร์ลบรอยสิว รอยดำ แผลเป็น

คอลซีลเลอร์สีสว่าง  ควรเหมาะกับการลง ใต้ตา คอลซีลเลอร์สีเข้มควรเหมาะกับการลบรอยสิวรอยแผลเป็นเพื่อที่จะให้สีนั้นได้กลมกลืนไปกับสีผิวของเราด้วย แต่ถ้าหากว่าใช้สีสว่างไปลบรอยสิวแบบนั้น ก็อาจจะทำให้รอยสิวหรือรอยแผลเป็นดูชัดขึ้นกว่าเดิมนั่นเองนะคะ

3.บลัชออน กับ เฉดดิ้ง

หลายคนใช้ บลัชออน และเฉดดิ้ง ไปด้วยนอกจากจะประหยัดเครื่องสำอางและยังประหยัดเวลาไปด้วยแต่นั้นก็ยังเป็นการวิธีที่ผิดอยู่ดี หาก บลัชออน เป็นสีชมพู ส้ม นู้ด ๆ ที่เหมาะกับการปัดหน้าแก้ม ซึ่งจะไป เฉดดิ้ง ด้วยก็คงไม่เหมาะเลยและสีที่จะเหมาะกับการ เฉดดิ้ง มาก ๆ ก็คือ เฉดดิ้ง ด้วยสีน้ำตาลเพื่อสร้างแสงและเงาที่ชัดเจน

4.ปัญหาผิวหน้าเป็นร่อง 

ปัญหานี้พบเจอได้บ่อยสำหรับผู้หญิงที่เกิดผิวหน้าเป็นร่อง ที่เกิดจากการกด ทับ ด้วยแป้งฝุ่นทันทีหลังจากทาคอลซีลเลอร์ไปแล้ว ซึ่งในส่วนของแป้งฝุ่นนั้นจะไปทำหน้าที่ล็อกเนื้อคอลซีลเลอร์ให้อยู่กับที่ ไม่สามารถขยับตามผิวเราได้  ไม่ว่าจะพูด ยิ้มหรือหัวเราะ ก็จะเกิดเป็นร่องขึ้นทันทีฉะนั้นแล้วหลังลง คอลซีลเลอร์ เสร็จให้ใช้แปรงแตะแป้งเบา ๆ แล้วซับเข้าที่บริเวณใต้ตาก็พอเพื่อลดความมันของ คอลซีลเลอร์ออก จะทำให้ คอลซีลเลอร์ขยับตามเราได้ด้วย

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เราก็ขอฝากเอาไว้เป็นเทคนิคเสริม หรือข้อแนะนำดี ให้สาว ๆ ได้เรียนรู้และสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้นะคะ

 

แว่นกันแดดสวย ๆ แบบไหน ที่เหมาะกับรูปหน้าของคุณ

“แว่นกันแดด” ไอเทมที่ให้ประโยชน์มากกว่าแค่แฟชั่น เรียกว่าจำเป็นเลยทีเดียวสำหรับยุคที่แสงแดดและความร้อนดูน่าสะพรึงกลัวมาก โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องขับรถกันตลอดวัน หากฟิล์มรถของคุณกรองแสงได้ไม่ดีพอ อย่ารีรอที่จะใส่แว่นกันแดดเพิ่ม เพื่อปกป้องดวงตาคู่สวยของคุณ แต่หากสาวคนไหนยังหาแว่นกันแดดถูกใจไม่ได้ คุณไม่ควรลังเลแล้ว ลองไปดูเทคนิคการเลือกแว่นกันแดดที่เหมาะกับรูปหน้าไว้ใช้คู่กายสักอัน ขับรถก็ได้ ไปเที่ยวก็ดี ที่สำคัญถ้าเลือกได้ดี ก็สามารถอัพลุคของคุณให้ดูดีขึ้นได้ด้วยนะ

สาว ๆ แต่ละคนมีรูปหน้าที่แตกต่างกัน การเลือกแว่นกันแดดที่เข้ากับรูปหน้าจึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้คุณดูดีขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยให้คุณประหยัดได้อีกด้วย การลงทุนเลือกซื้อแว่นดี ๆ สักอัน ได้ทั้งคุณภาพ และการถนอมดวงตา ลงทุนครั้งเดียวเก็บไว้ใช้ได้ยาว ๆ แค่นี้ก็คุ้มแล้ว

เทคนิคการเลือกแว่นกันแดดให้เข้ากับรูปหน้า

  1. สาวหน้ากลม มีแก้มป่อง ๆ น่ารัก มีคางน้อย ๆ สัดส่วนใบหน้าใกล้เคียงกัน แว่นกันแดดที่เหมาะสำหรับคุณคือ แว่นกันแดดที่มีกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลีกเลี่ยงกรอบรูปทรงกลม เพราะจะทำให้แก้มป่อง หน้ากลมขึ้นไปอีก
  2. สาวหน้าเหลี่ยม มีโครงหน้าบริเวณกรามที่ชัดเจน แว่นกันแดดที่เหมาะกับคุณ คือ แว่นทรงกลม หรือทรงมนก็ได้ จะช่วยเพิ่มความสมดุล และลดความเหลี่ยมลงได้เป็นอย่างดี
  3. สาวหน้ายาว คุณสามารถเลือกแว่นแฟชั่นทรงโต ๆ กรอบโอเว่อร์ไซส์ได้เลย เพราะจะช่วยทำให้พื้นที่บนใบหน้าคุณดูลดลง สมส่วนมากขึ้น
  4. สาวหน้ารูปหัวใจ ช่วงบริเวณหน้าผากจะกว้างสักนิด และไล่เล็กลงมาจนถึงบริเวณคาง แว่นกันแดดที่เหมาะกับคุณ คือแว่นทรงแคทอายส์ ที่จะช่วยลดความกว้างของหน้าผากลง และเสริมช่วงคางให้ดูเด่นขึ้น
  5. สาวหน้ารูปไข่ คุณเป็นสาวที่โชคดีมากมาย เพราะใส่แว่นกันแดดทรงไหนก็ได้ แค่อย่าเลือกแบบที่ใหญ่จนบัดบังใบหน้าของคุณจนมากไปก็เท่านั้นเอง สวยทุกแบบอยู่แล้ว

รู้หลักการเลือกแว่นกันแดดให้เข้ากับรูปหน้าแล้ว ทีนี้สาว ๆ ก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะใส่แว่นกันแดดแบบไหนถึงจะสวย ถ้าจะให้ดีจริง ๆ ควรเลือกแว่นกันแดดที่มีคุณภาพดี จะดีกว่า เพราะดวงตาของเราสำคัญมาก อย่าเน้นสวยตามแฟชั่นอย่างเดียว เปลี่ยนทรงเปลี่ยนแบบไปเรื่อย ๆ เพราะจะกลายเป็นไม่เกิดประโยชน์ แถมจ่ายมากโดยไม่รู้ตัวอีกต่างหาก เพราะแว่นแฟชั่นบางยี่ห้อ เลนส์จะเป็นพลาสติกที่ไม่ได้มีประโยชน์ในการป้องกันแสงแดดอะไรเลย เรียกว่าสวยอย่างเดียว สาว ๆ รู้แบบนี้แล้ว คงตัดสินใจซื้อแว่นกันแดดแบบมีคุณภาพมาใช้กันได้แล้วนะ

 

สายสร้อย กับชุดสวย แมทช์แบบไหน สร้างสไตล์สร้างความโดดเด่น

ผู้หญิงที่แต่งตัวเก่ง แต่งตัวเป็น จะรู้ดีว่าเครื่องประดับมีความสำคัญต่อภาพของเธออย่างไร เพราะนอกจากจะเป็นส่วนที่ช่วยเสริมให้ชุดที่ใส่ดูสวยขึ้นแล้ว ยังช่วยเรื่องการสร้างสมสมดุลให้กับรูปร่างอีกด้วย จึงไม่แปลกเลย ที่ผู้หญิงจะมีเครื่องประดับกันเหมือนเป็นคลังสินค้าย่อม ๆ และหนึ่งในไอเทมสำคัญ ที่ช่วยสร้างความกลมกล่อมในการแต่งตัวได้เป็นอย่างดี นั่นคือ “สายสร้อย” นอกจากจะเสริมความโดดเด่นน่ามองแล้ว สายสร้อยยังทำให้รูปร่างของคุณ และสไตล์ของชุดดูลงตัวมากขึ้นอีกด้วย

สายสร้อยมีมากมายหลายรูปแบบ แต่ไม่ใช่ว่าสาว ๆ เห็นว่าเส้นนี้สวย ก็เลือกมาใส่ได้เลยนะ ต้องดูด้วยว่าชุดที่ใส่นั้น เป็นอย่างไร เหมาะกับสายสร้อยแบบไหน หากยังไม่เคยรู้ ลองไปดูทริคต่าง ๆ กันได้เลย

  1. เสื้อคอกลม ที่ค่อนข้างเปิดให้เห็นส่วนคอสูง หรือแม้แต่เสื้อยืดธรรมดา ถ้าได้สายสร้อยเส้นยาว ๆ สักเส้น จะทำให้ช่วงคอของคุณสาว ๆ ดูยาวขึ้นมา ทำให้รูปร่างดูเพรียวขึ้นด้วย
  2. เสื้อเชิ้ต ติดกระดุมที่คอ สายสร้อยเส้นยาว ห้อยจี้เด่น ๆ สักชิ้น จะทำให้คุณดูเท่ มีสไตล์มากขึ้นทันที
  3. เสื้อคอเต่า เสื้อที่สร้างความสง่างามให้กับคุณได้อย่างง่ายดาย และเป็นเสื้ออีกแบบที่ควรใส่กับสายสร้อยเส้นยาว ทำให้คุณดูมีราศีขึ้นมาอีก
  4. เสื้อเกาะอก โชคเกอร์ เป็นสิ่งที่เหมาะกับคุณ ทำให้เกิดดีเทลที่โดดเด่นมากขึ้น และไม่แย่งซีนผิวเนียน ๆ ของคุณด้วย แต่ถ้าหากอยากให้ช่วงลำคอดูยาวมากขึ้น สายสร้อยเส้นยาว จะช่วยตอบโจทย์ของคุณได้
  5. เสื้อคอกลม เสื้อคอปก สายสร้อยเส้นสั้น ๆ ระดับต่ำกว่าปกเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี
  6. เสื้อคอสี่เหลี่ยม ควรเลือกสร้อยที่มีจี้เป็นทรงเรขาคณิต หรือทรงเหลี่ยมเหมือนกัน จะเพิ่มเรื่องราวที่ไปในทางเดียวกันได้ดี
  7. เสื้อคอเว้า ค่อนข้างลึก สายสร้อยเส้นโต ๆ ไม่ยาวเกินคอเสื้อนี่แหละ เข้ากันอย่างที่สุด
  8. เสื้อคอปาด เสื้อแบบนี้เหมาะกับสร้อยเส้นยาว เพราะจะช่วยสร้างความสมดุลบริเวณช่วงคอได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณดูมีช่วงคอที่ยาวระหงขึ้นได้ง่าย ๆ
  9. เสื้อคอวี เสื้อสไตล์นี้จะเห็นช่วงลำคอที่ดูยาวอยู่แล้ว แบบนี้สร้อยเส้นสั้น ๆ ไม่ยาวเกินคอเสื้อ จะเหมาะมาก เพราะทำให้มีจุดเด่นมากขึ้น เก๋ไปอีก

เย็นนี้รีบกลับไปเปิดตู้ดูเสื้อผ้าซิ แล้วลองนั่งลิสรายการว่าต้องจัดหาสายสร้อยสักกี่แบบกัน ลองนำทริคเหล่านี้ไปใช้ดู จะได้ไม่พลาดกับการแมทช์สายสร้อยให้เข้ากับเสื้อผ้าของคุณ คราวนี้ไม่ว่าจะแต่งชุดไหน ๆ คุณก็จะดูโดดเด่นมากขึ้น เพราะเลือกใช้สายสร้อยได้แบบแฟชั่นนิสต้ามืออาชีพแล้ว

 

เพิ่มพลัง เพิ่มความโดดเด่น ด้วยการแต่งตัวให้สวย แล้วไปทำงานออฟฟิศ

“สาวออฟฟิศ” คำนี้ดูมีอิทธิพลมากกับชีวิตในหลาย ๆ เรื่องทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งเรื่องการการแต่งตัว ผู้หญิงบางคน เอ๊ะหรือหลายคน ถึงกับพูดว่าเป็นสาวออฟฟิศ จะแต่งไปทำไม แต่งไปให้ใครดู ในเมื่อต้องนั่งติดโต๊ะทำงานแทบทั้งวัน จริง ๆ แล้วก็คุณนั่นแหละที่ดูตัวเองอยู่ทุกวี่วัน ชีวิตชีวาของคุณก็มาจากการแต่งตัวนี่แหละ ก็ถ้าต้องไปทำงานออฟฟิศทุกวัน ทำไมไม่แต่งชุดทำงานให้มันสวย ๆ ไปทุกวันซ่ะเลย แค่นี้ คุณก็จะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น แถมยังช่วยสร้างบรรยากาศน่ามองในที่ทำงานเพิ่มขึ้น เผลอ ๆ อาจจะกลายเป็นสาวฮ็อตประจำออฟฟิศไปเลย

ส่วนคำถามที่ตามมา คือจะแต่งตัวไปทำงานยังไงดี ให้ดูสวยแต่ไม่เยอะ อันนี้ไม่ยากเลย มาดูคำตอบที่นำไปเป็นไอเดียให้คุณสาว ๆ ได้สนุกสนานกัน

  1. เพิ่มลุคธรรมดาประจำวันของคุณให้มีลูกเล่นมากขึ้น หากคุณสาว ๆ ใส่แค่เสื้อเชิ้ต กับกระโปรงทรงเอ หรือทรงดินสอไปทำงาน ลองพันคอด้วยผ้าพันคอผืนเล็ก จะพันแบบสั้นช่วงคอ หรือผูกต่ำ ๆ ใต้คอปกเสื้อ แค่นี้ก็ดูเก๋กว่าเพื่อนแล้ว ที่สำคัญ ควรเลือกสีผ้าพันคอ ให้แมทช์กับกระโปรง เข็มขัด หรือรองเท้าของคุณก็ได้ จะช่วยให้เรื่องราวไปในทางเดียวกัน ดูไม่เยอะ และไม่หลุดด้วยนะ
  2. หากคุณใส่เสื้อแขนกุดกับกระโปรงทรงเอเหนือเข่า ลองหาแจ็คเก็ตแขนกุดซักตัว ใส่คลุมทับลงไป ลุคชิล ๆ ของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน คุณจะดูเป็นคนแต่งตัวเก่งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
  3. เดรสยาวของคุณ ลองเลือกเป็นเดรสสีพื้นทั้งตัว เลือกสีที่สดใส กระปรี้กระเปร่า เช่น สีแดง หรือสีที่ให้ความสง่างาม เช่น สีน้ำเงิน สีเขียว หัวใจสำคัญอยู่ที่ ต่างหู รองเท้า และกระเป๋า เลือกให้เป็นสีเดียวกัน เหมือนเป็นลูกเล่นของคุณ แค่นี้ก็ดูแพง ดูมีคลาสแล้ว ระวังอย่าเลือกสีเดียวกับเดรสเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้คุณดูเป็นแพทเทิร์นขึ้นมาในทันที
  4. เสื้อยืดผู้หญิงธรรมดา ๆ ลองใส่คู่กับกระโปรงบอลลูน กระโปรงพลีท แล้วคาดเข็มขัดเส้นโต เลือกโทนสีให้แมทช์กัน แค่นี้เอง ความเท่ ชิค ดูดี จะเป็นของคุณอย่างแน่นอน
  5. เสื้อเชิ้ตสีพื้นของคุณ ลองจับมาแมทช์กับกางเกงขาบาน โทนสีสุภาพดูบ้าง ให้ความรู้สึกเป็นผู้บริหารได้ดีทีเดียว ที่สำคัญลุคนี้ต้องจับคู่กับรองเท้าส้นสูงนะ จะทำให้คุณสง่า และมีขาที่เรียวยาวสวยงาม

สาวออฟฟิศ หากอยากสนุกกับการทำงานประจำมากขึ้น ลองใช้เทคนิคแต่งตัวสวย ๆ ไปทำงานทุกวันดูบ้าง จะทำให้คุณสดชื่นสดใสขึ้นโดยไม่รู้ตัว เปลี่ยนวันเดิม ๆ วันธรรมดาของคุณด้วยตัวคุณเอง นอกจากจะได้รับคำชมเชยจากเพื่อนร่วมงานแล้ว คุณยังเป็นคนที่มีพลังเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยนะ

 

เล็บสวย ของสาวยุคใหม่ เลือกสีแบบไหนให้ดูดี ดูแพง

ในเมื่อตั้งใจเลือกเสื้อผ้า หน้าผมมาได้เป๊ะแล้ว หากยังรู้สึกว่าไม่จบ ไม่สุด ลองหันไปชำเลืองมองมือและเล็บของคุณซิ ว่ายังขาดอะไรไปหรือเปล่า รู้ไหมว่าการที่มีเล็บสีสวย ๆ เข้ากับชุด เป็นอะไรที่ทำให้การแต่งตัวของคุณดูหรูหรา ดูแพงขึ้นมาได้แบบไม่ต้องพยายาม แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกสีด้วยนะ หากเลือกสีไม่เข้ากับชุด ไม่เข้ากับตัวคุณ แทนที่จะดูดีขึ้น อาจจะไม่น่ามองขึ้นมาซะอย่างนั้น

แฟชั่นที่เกี่ยวข้องกับเล็บเดี๋ยวนี้มาไกลมาก มีลูกเล่น มีเครื่องประดับเยอะแยะ แพรวพราว เทคนิคลวดลายก็หลากหลายมาก แบบเปรี้ยว แบบหวาน แบบสายดาร์กก็ยังมี สามารถเลือกได้ทุกรูปแบบ แต่จริง ๆ แล้วเล็บที่แสนงามของคุณ อาจจะไม่ต้องจัดเต็มจัดหนักอย่างนั้นทุกครั้งคราก็ได้ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีไลฟ์สไตล์หลายรูปแบบในแต่ละวัน บางวันเล็บหรูหรา อาจจะไม่เหมาะกับกิจกรรมของคุณก็ได้ แค่เลือกทาเล็บธรรมดา สีสวย ๆ มีสไตล์นิด ๆ แค่นี้ ก็ทำให้คุณดูสวยครบได้ง่าย ๆ แล้ว สำหรับเทรนด์สีทาเล็บใหม่ ๆ ที่กำลังฮ็อตฮิต จะทำให้คุณดูดี มีคลาส และแอบดูแพง มีให้เลือกมากมาย ลองเลือกดูซิว่า สีไหนเข้ากับคุณได้บ้าง ข้อมูลด้านล่างนี้จะบอกคุณเอง

  1. สีนู้ดแบบเนื้อแมทท์ เป็นสีที่ให้ความคลาสสิก หรูหรา และมีความเป็นตัวของตัวเอง ดูมั่นใจ สีนู้ดนั้นมีอยู่หลายเฉดด้วยกัน เลือกให้เข้ากับสีผิวของคุณที่สุด ใช้วิธีทาดูเลย อย่าเลือกจากสีสวย ๆ ที่เห็นในขวด ลองทาที่เล็บดูว่า สีนู้ดโทนนั้น ทำให้มือของคุณดูขาวสว่างมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า เพราะสีนู้ดบางเฉด จะทำให้มือของคุณดูดรอป ดูหมองลง เพราะเฉดที่ไม่เข้ากันนั่นเอง
  2. สีนู้ด เนื้อมันเงา แวววาวนิด ๆ ให้ความรู้สึกหรูหรา ไฮโซ และดูเป็นคุณหนู สีนู้ดแบบนี้จะมีสีที่ค่อนข้างอ่อน ออกโทนชมพูหวาน ๆ สามารถเพิ่มลวดลาย เพิ่มลูกเล่นบริเวณปลายเล็บ ให้ดูโดดเด่นขึ้นมาอีกนิด ก็จะทำให้ดูสวยเก๋ขึ้น
  3. สีใส ๆ คล้ายสีเคลือบเล็บ เหมาะกับสาวเล็บสวย อยากเพิ่มเติมความเงางาม สดใส ให้ดูมีสุขภาพดี ให้สีชมพูนิด ๆ ระเรื่อแบบธรรมชาติ เหมาะกับทุกสถานการณ์ ทุกชุด ทุกโอกาสเลยทีเดียว

สาวบางคนไม่กล้าทาเล็บ ไม่เคยทาเลยก็มีเยอะ เพราะกลัวว่าจะถูกมองว่าแรง เป็นสาวเก่งกล้า ลองเปิดใจ เปลี่ยนความคิดดู เริ่มจากเลือกน้ำยาทาเล็บ สีอ่อน ๆ แบบสีนู้ด คุณภาพดี  เลือกโทนสีที่เหมาะกับผิวคุณ คุณจะได้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป สนุกสนาน และมีชีวิตชีวามากขึ้น ยิ่งเลือกสีที่เข้ากับชุดด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้คุณดูสวย และใส่ใจในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น  ทำให้วันธรรมดา ๆ ของคุณกลายเป็นวันที่สดใสขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

 

คาดเข็มขัด สร้างเอวเอส ดูเป็นสาวรูปร่างดี ทำอย่างไร

หากจะเลือกใส่เสื้อผ้าให้ดูสวย เข้ากับรูปร่างของตัวเอง และเสริมให้บุคลิกภาพให้โดดเด่นน่ามอง ในโลกของแฟชั่นมีเทคนิคการแต่งกายเยอะแยะมากมาย และเข็มขัดก็เป็นอีกไอเทมหนึ่ง ที่ช่วยให้การแต่งตัวของคุณผู้หญิงดูมีเรื่องราวมากขึ้น สามารถเสริมและปรับให้รูปร่างสมส่วนได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย เทคนิคการเลือกใส่เข็มขัดเป็นเรื่องที่สาว ๆ บางคนไม่เคยรู้มาก่อนเลย เรียกว่ามีเส้นเดียวใส่มันทุกชุด เราลองไปดูกันซิว่า มีอะไรให้เลือกใช้บ้างนะ

3 สิ่งที่คุณควรมอง ก่อนซื้อเข็มขัดที่ถูกใจสักเส้น

  1. ความกว้างของเข็มขัด ดูว่าเหมาะสมกับเอว และรูปร่างหรือไม่ เข็มขัดส่วนใหญ่ จะมีขนาด ¾ นิ้ว
  2. สีของเข็มขัด เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าขนาด เพราะช่วยทำให้เอวของคุณดูคอด ดูเล็ก และช่วยทำให้ช่วงตัวของคุณสมส่วนมากขึ้นด้วย
  3. รูปแบบและวัสดุของเข็มขัด เลือกให้แมทช์กับสไตล์ของเสื้อผ้าที่ใส่ จะให้รูปแบบไปในทางเดียวกัน จะทำให้ดูกลมกลืน ไม่ขัดสายตา ช่วยให้ดูดีขึ้นได้อย่างง่ายดาย

เมื่อรู้วิธีการเลือกซื้อเข็มขัดแล้ว ทีนี้มาดูกันว่า สไตล์การแต่งตัวแต่ละแบบ ควรคาดเข็มขัดอย่างไร เพื่อเพิ่มสวย และโดดเด่นให้กับคุณได้

วิธีคาดเข็มขัดให้โดดเด่นน่ามอง

  1. ลุคเบสิคอย่างกางเกงยีนส์ หากอยากเพิ่มความเท่ ดูมีสไตล์มากขึ้น เข็มขัดหนัง เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะยีนส์กับหนังนั้น เป็นของคู่กันมาอย่างยาวนานแล้ว และลุคนี้จะสมบูรณ์มากขึ้น ถ้าคุณจบลงที่รองเท้าหนังสีเดียวกัน หรือโทนสีที่ไปด้วยกันได้กับเข็มขัดหนังของคุณ
  2. เดรสของคุณ จะเปลี่ยนความรู้สึกเรียบง่ายได้ทันที เมื่อคุณคาดเข็มขัดเส้นโต ๆ ทำให้คุณดูมีความเป็นผู้หญิงหุ่นดีมากขึ้นมาอีก
  3. เสื้อตัวโคร่ง ๆ หรือที่เรียกว่าเสื้อโอเว่อร์ไซส์ หากนำเข็มขัดมาคาดทับ แล้วดึงเสื้อออกมานิด ๆ แบบไม่ตั้งใจ จะทำให้การแต่งตัวของคุณดูมีลูกเล่นมากขึ้น เก๋ไปอีก
  4. คาดทับเสื้อคลุมแบบเบรเซอร์ ทำให้ลุคสาวออฟฟิศธรรมดา กลายเป็นสาวมั่นขึ้นมาได้ในทันที
  5. เปรี้ยวแบบดูดีด้วยเสื้อเอวลอย กางเกงขายาว และคาดเข็มขัดสวย ๆ เส้นไม่เล็กมากนัก แค่นี้ คุณก็น่ามองมากขึ้นแล้ว

สาว ๆ บางคนไม่กล้าคาดเข็มขัด เพราะคิดว่าตัวเองนั้นไม่มีเอว ความจริงมันตรงข้ามกันเลย เข็มขัดนี่แหละ สามารถทำให้คุณมีเอวขึ้นมาได้ เพียงแค่คุณรู้จักเลือก และมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เป็น ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบไหน ให้ความสำคัญกับเอวไว้จะดีที่สุด เพราะจะทำให้รูปร่างของคุณดูสมส่วนมากขึ้น และนอกจากนั้นยังทำให้การแต่งตัวของคุณสนุกสนาน และมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้นด้วย

 

ลิปสติกสวย ๆ เค้ามีให้เลือกกี่ประเภทกันนะ

ขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้า ที่ทำให้สาว ๆ จบได้อย่างสวยสมบูรณ์แบบ เห็นจะไม่พ้นการทาลิปสติกสีสวย ๆ ให้เรียวปากมีเสน่ห์ สำหรับลิปสติกนั้น ก็มีสีสันให้เลือกมากมาย แถมสีเดียวกันบางทีก็แยกเฉดออกไปอีกหลาย 10 เฉด ที่จริงนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับสาว ๆ ที่จะเลือกสีที่เหมาะกับตัวเอง หรือเข้ากับชุดสวย ๆ ที่ใส่ แต่จะมีสาว ๆ กี่คนกันนะ ที่รู้ว่าลิปสติกนั้นมีเนื้อลิปกี่ประเภท

นอกจากการเลือกสีลิปสติกสวย ๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือการเลือกเนื้อลิปให้เหมาะกับผิวริมฝีปาก บางคนปากแห้ง ปากคนปากแตกเป็นขุย การเลือกเนื้อลิปสติกที่เหมาะสม จะช่วยบำรุงให้ริมฝีปากมีความแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย

มาดูกันว่า  5 ประเภทของลิปสติกที่สาว ๆ ควรรู้จัก และเลือกใช้ให้เหมาะสมมีอะไรกันบ้าง

  1. ลิปสติกเนื้อครีม เป็นลิปสติกยอดนิยมประเภทหนึ่ง ด้วยเม็ดสีที่แน่น และชัดเจน แต่ยังคงให้ความชุ่มชื่น ทำให้ได้สีสันบนเรียวปากที่โดดเด่น และสดใส ติดทนนาน
  2. ลิปสติกเนื้อซาติน และเนื้อเชียร์ เป็นลิปสติกที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ และน้ำมัน ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ได้ทั้งสีสันของ และได้ทั้งความมันวาวด้วย คล้าย ๆ ลิปมัน แต่มีสีสันที่ชัดเจนกว่า
  3. ลิปสติกเนื้อลิควิค สุดฮิตในยุคนี้ ที่เรียกกันว่าลิปสติกจิ้มจุ่มนั่นเอง เนื้อค่อนข้างหนืด แต่ใช้ง่าย สีสันสวย ใช้แปรงจุ่มแล้วทาปากได้เลย แห้งเร็ว และติดทนนาน
  4. ลิปสติกเนื้อกลอส เป็นลิปสติกสีอ่อนใส ที่เน้นให้ความฉ่ำ แวววาว ดูมีสุขภาพดี นิยมทาทับลิปสติกสีแรก เพิ่มประกาย เพิ่มความชุ่มฉ่ำ ดูปากเย้ายวนขึ้น
  5. ลิปสติกเนื้อแมทท์ ลิปสติกยอดนิยมอีกในยุคนี้ ให้สีสันสวย แปลกตา ดูชัดเจน ไม่มีความมันวาว เรียกได้ว่าค่อนข้างแห้ง ต้องเลือกคุณภาพของแบรนด์ที่ดีสักนิด เพราะถ้าเนื้อไม่ดี จะทำให้ตกร่องปาก มองแล้วเห็นเป็นริ้ว ๆ ตามร่องปาก ดูคล้ายคนปากแห้ง ไม่สวยงาม สามารถใช้ลิปมันทารองพื้นก่อน เพื่อไม่ให้ดูแห้งจนเกินไป

นอกเหนือจากลิปที่ให้สีสันทั้ง 5 ประเภทแล้ว ยังมีลิปมัน และลิปบาล์ม ที่มุ่งเน้นเรื่องการบำรุงริมฝีปาก สามารถทารองพื้นปากก่อนทาลิปสติกสี เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี ลิปทั้ง 2 แบบนี้ มีทั้งแบบใส และแบบที่ให้สีสันด้วย แต่เป็นสีที่อ่อนมาก ๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทาลิปสติกสีจัด ชัดเจน แต่อยากบำรุงริมฝีปาก และได้ลุคปากชมพูอ่อนใสด้วย หรือแม้แต่วัยรุ่น แค่ทาแป้ง เน้นโชว์ผิวสวย ๆ แล้วทาลิปมันสีอ่อน ๆ เท่านี้ ก็ดูน่ารัก สดใสสมวัยแล้ว และสามารถทาเติมได้บ่อยเท่าที่ต้องการอีกด้วย สาว ๆ อย่าได้พลาดที่จะมีลิปสติกประเภทนี้ติดกระเป๋าไว้เชียว

 

5 แบบรองเท้า ที่สาว ๆ ควรมีไว้ข้างกาย

สาว ๆ ที่รักการแต่งตัวทั้งหลาย น้อยคนนักที่จะไม่ใส่ใจกับไอเทมสุดสำคัญ เช่น รองเท้า ในเมื่อแมทช์ชุดลงตัวแล้ว ถ้ามาพลาดแมทช์รองเท้าให้เข้าชุดไม่ได้ ทุกอย่างที่พิถีพิถันเลือกมา อาจจะทำให้สาวที่เคยเป็นคนแต่งตัวได้ดี ดูกลายเป็นคนแต่งตัวไม่เป็นขึ้นมาเสียเฉย ๆ ก็ได้นะ

สาว ๆ ส่วนใหญ่คงไม่ปฏิเสธว่ามีรองเท้ามากกว่าหนึ่งคู่ ก็เพราะความสวยของรองเท้าแต่ละคู่ มันทำให้หักห้ามใจไม่ไหวนั่นเอง แต่สาว ๆ รู้ไหม จริง ๆ แล้ว รองเท้าที่ควรมีไว้เป็นคู่กายคู่ใจ มันมีแบบไหนกันบ้าง นอกจากจะขยันซื้อเพราะความสวยแล้ว ลองมาดูกันหน่อย ว่ารองเท้าในตู้ที่มี มันซ้ำแบบกันสักกี่คู่นะ

5 แบบรองเท้า ที่สาว ๆ ควรมีไว้ในครอบครอง

  1. รองเท้าแบบ Flats เป็นรองเท้าหุ้มส้น และเป็นแบบส้นแบน เน้นสวมสบาย ใส่ง่าย ใช้ได้กับหลาย ๆ โอกาส เน้นความเข้ากันกับชุดที่ให้ลุคชิล ๆ หรือเอาไว้เป็นรองเท้าที่ใช้ใส่เดินในที่ทำงานก็ดูดีกว่ารองเท้าแตะมาก ยิ่งหากต้องเดิน หรือยืนทั้งวัน รองเท้า Flats แบบนี้แหละที่ช่วยได้เป็นอย่างดี
  2. รองเท้า Loafers เป็นรองเท้าส้นเตี้ย เน้นความสวมสบายเช่นกัน ไม่มีเชือกผูกรองเท้า สวมใส่ง่าย ดูดี ไม่ลำลองมากนัก สามารถแมทช์ได้แทบทุกชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดทำงาน ชุดลำลอง กางเกง หรือกระโปรง เรียกว่าเป็นรองเท้าที่ควรมีติดไว้เป็นอย่างยิ่ง
  3. รองเท้า Pumps รองเท้าส้นสูง ขนาด 2”-4” ปลายเท้าเปิด หรือปิดก็ได้ เป็นรองเท้าอีกแบบ ที่ช่วยให้รอดได้ในหลาย ๆ ชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดไหน อย่าลืมแมทช์กับรองเท้าแบบนี้ดูบ้าง ได้ลุคที่ดูดีมากทีเดียว แนะนำให้สาว ๆ มีไว้ในครอบครองสัก 2 สีเป็นอย่างน้อย นั่นคือ สีดำ และ สีนู้ด แค่นี้ก็จับคู่กับชุดสวยได้มากมายแล้ว
  4. รองเท้า Sandals เป็นรองเท้าเปิดปลายเท้า หรือเปิดส้นเท้าด้วย โชว์เท้าสวย ๆ นิ้วเท้าเรียว ๆ ใส่สบาย ใส่ง่าย ดีไซน์เก๋ น่ารัก บางแบบมีเครื่องประดับ หรือพู่ห้อย ดูกุ๊กกิ๊ก ใส่เที่ยวก็ดี ใส่เล่นก็ได้ บางสไตล์เป็นแบบใส่ลุย ๆ มีรูปแบบให้เลือกเยอะมากมาย สาว ๆ มักจะพ่ายแพ้ความสวยน่ารักกับรองเท้า sandals นี้ได้อย่างง่ายดาย
  5. รองเท้า Oxford เป็นรองเท้าส้นแบน ที่มีเชือกผูก ให้ความรู้สึกเป็นทางการทีเดียว เท่ และ มีสไตล์ ส่วนใหญ่จะเป็นหนัง แมทช์ชุดที่ให้ลุคสมาร์ท ๆ ไม่พลาดอย่างแน่นอน

รองเท้าแต่ละแบบให้ลุค ให้อารมณ์ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ควรเลือกให้เหมาะกับชุดที่ใส่ จะช่วยเสริมความดูดีขึ้นไปได้อีกมาก มีรองเท้าอีกประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ เพราะมาแรงจริง ๆ ไม่ว่าชุดไหน ๆ สาว ๆ จับมาใส่คู่กันได้หมด แล้วก็ดูดีอีกต่างหาก นั่นก็คือรองเท้าผ้าใบนี่เอง สาว ๆ คงไม่พลาดที่จะมีรองเท้าผ้าใบไว้คู่กาย กันอยู่แล้วใช่ไหม

 

กางเกงขาสั้น ในลุคที่ให้ความแตกต่าง มากกว่าคำว่าชิล ชิล

ขาสวย ๆ เรียวยาว เรียบเรียน นอกจากจะให้ความรู้สึกเซ็กซี่แล้ว ยังให้ความรู้สึกถึงความเฮลตี้ได้อีกด้วย  มีสาว ๆ ไม่น้อยที่ชอบใส่กางเกงขาสั้นเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะงานไหน งานอะไร หากใส่กางเกงขาสั้นได้ แม่นางทั้งหลายก็ไม่ยอมพลาดเด็ดขาด แต่ด้วยความที่กางเกงขาสั้นให้ความรู้สึกชิลและสบาย ๆ ในตัวเองอยู่แล้ว จึงทำให้เวลาที่สาว ๆ เลือกแต่งตัวออกจากบ้านด้วยกางเกงขาสั้น ลุคและสไตล์ในวันนั้น ก็จะเป็นสาวชิล สาวสปอร์ต ชิค ๆ คูล ๆ กันซะเป็นส่วนใหญ่ จนหลายคนคิดว่าเป็นได้แค่ชุดลำลองเท่านั้นไปโดยปริยาย

แล้วถ้าหากอยากใส่กางเกงขาสั้น แต่ไม่อยากได้ลุคชิลจนเกินไปบ้างหล่ะ ทำยังไงเมื่อใส่ขาสั้นแล้ว ให้ลุคดูแตกต่างไป เก๋ไก๋ขึ้น เปรี้ยวจี้ด สวยจัด หรือเท่จนคนเหลียวมองบ้าง จริง ๆ ไม่ยากเลย แค่มีความกล้า เชื่อมั่น และมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เป็น แค่นี้สาว ๆ ก็ได้อะไรที่แตกต่าง และดูดีขึ้นได้ในอีกหลายเลเวล

จับคู่กางเกงขาสั้น กับไอเทมอะไรบ้าง ที่ทำให้คุณแตกต่าง และสวยขึ้นอย่างง่ายดาย

  1. เสื้อเชิ้ตตัวใน สอดชายในกางเกงขาสั้น แล้วใส่เสื้อคลุมที่มีโครงสร้างสวย ๆ หรือจะเข้าเอวนิด ๆ ยิ่งดีคาดเข็มขัดเส้นโต ใส่รองเท้าส้นสูง แค่นี้ก็ทั้งเปรี้ยว ทั้งเท่แล้ว
  2. เสื้อกั๊กสวย ๆ สักตัว ใส่ทับเสื้อยืด หรือเสื้อเชิ้ตตัวใน ง่าย ๆ แค่นี้ ก็เก๋ขึ้นมาในทันที อย่าลืมสายสร้อยเส้นยาว เพิ่มดีเทลเข้าไปให้น่ามองอีกสักนิด
  3. เสื้อเอวลอยนิด ๆ เพิ่มความน่ามองมากขึ้น แต่ไม่ต้องลอยมากนัก เพราะจะดูเป็นการจงใจใส่สไตล์เซ็กซี่มากจนเกินไป เลือกเป็นเสื้อคอตั้ง ตัวสั้น รองเท้าส้นสูง กระเป๋าหนังสักใบ ก็ดูดีขึ้นได้ไม่ยากแล้ว
  4. เสื้อแฟชั่นผู้หญิง ผ้าชีฟอง จับจีบช่วงหัวไหล่ หรือเสื้อแขนตุ๊กตา สอดชายเข้าในกางเกง คาดเข็มขัดเส้นเล็ก ๆ รองเท้าส้นสูง ลุคนี้ขาดเครื่องประดับไม่ได้ เยอะหน่อยยิ่งดูน่ารัก สร้อยข้อมือ หรือกำไลหลาย ๆ วง กับต่างหูแบบห้อยตุ้งติ้ง เพิ่มเสน่ห์ของความผู้หญิงให้ได้มากมาย
  5. เสื้อคอเต่า แขนยาว สีพื้น สอดชายเข้าในกางเกง คาดเข็มขัด สะพายกระเป๋าหนัง ลุคนี้รองเท้าหนังต้องมา ได้ความเป็นอาร์ตตัวแม่ได้ทันที สไตล์นี้เท่และมีความเป็นตัวเองมาก

เอาใจสาวรักกางเกงขาสั้นแบบนี้แล้ว อย่าลืมลองนำไอเดียเหล่านี้ไปแต่งกัน จับคู่ให้ลงตัว เปลี่ยนความชิล ให้ดูดีขึ้นได้อย่างแน่นอน  ที่สำคัญอย่าลืมดูแลเรียวขาให้นวลเนียน ครีมบำรุงทาเข้าไป อย่าให้มีแผลมีรอยเขียวช้ำ หากอยากเป็นสปอร์ตี้เกิร์ลขึ้นอีกสักนิด  อย่าลืมเน้นออกกำลังกายท่าบริหารขาให้เรียว กระชับ เพิ่มความมั่นใจขึ้นได้อีกหลายเยอะเชียว